ขนม หวาน ของ ภาค กลาง: ขนมหวานทั้ง 4 ภาค | ขนมหวานของไทย
- ขนมจ๊อก – ขนมไทย 4 ภาค
- ขนมภาคกลาง | ชอบ น่ะ
- ขนมไทย 4 ภาค
- ภาคกลาง | .: ครัวไทยสู่ครัวโลก :.
- ขนมหวานทั้ง 4 ภาค | ขนมหวานของไทย
จังหวัดสุโขทัย กล้วยอบเนย กล้วยอบเนย มีกระบวนการผลิตที่ไม่ยุ่งยากมากนัก โดยใช้กล้วยน้ำหว้าสดพันธุ์มะลิอ่อน ปอกเปลือกสไลด์เป็นแผ่นบางๆ สุดท้ายจะนำไปทอดในกระทะซึ่งมีเนยและน้ำตาลผสมอยู่ และความสะอาดที่สำคัญเป็นอันดับหนึ่ง ทำให้กล้วยอบเนยได้รับการต้อนรับที่ดีจากตลาด 19. จังหวัดสุพรรณบุรี สาลี่ สาลี่ เป็นขนมที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป ซึ่งมีรสชาติ หอมหวาน อร่อย และอ่อนนุ่ม และมีคุณค่าต่อร่างกายมากมายอีกด้วย เพราะมีส่วนประกอบการผลิต ขนมสาลี่นมสดกระชายดำ หรือสาลี่รสอื่นไม่มีการใส่สี และสารกันบูดแต่อย่างใด จนปัจจุบันขนมสาลี่เป็นที่นิยมมาก จนเป็นของฝากของจังหวัดสุพรรณบุรี 20. จังหวัดอุทัยธานี ขนมข้าวกุ้งกรอบ ขนมข้าวกุ้งกรอบ เกิดจากการหุงข้าวสวยจำนวนมากๆแล้วกินไม่หมดจึงนำเอา เครื่องปรุงมาผสมเพื่อให้เกิดรสชาติอาหารที่กลมกล่อมและแปลกขึ้น เช่น กระเทียม พริกไทย กุ้งแห้งป่น เกลือ น้ำตาล นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำไปผึ่งแดด ส่วนคุณค่าทางอาหารก็มากมาย เป็นขนมที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย จนทำเป็นของฝาก และเป็นขนมมงคลในงานประเพณีต่างๆ รสชาติติดปากและถูกใจต่อนักท่องเที่ยว ที่มาแวะเวียน จนเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายและขึ้นชื่อของจังหวัด 21.
ขนมจ๊อก – ขนมไทย 4 ภาค
อาหารหวานของทางภาคเหนือ และถือเป็นของหวานที่เป็นขนมยอดนิยม ทำกันทุกบ้านในเวลาเทศกาลโดยเฉพาะ สงกรานต์ หรือเทศกาลเข้าพรรษา เดือนยี่เป็ง เวลาไปทำบุญที่วัด เราจะพบเห็นขนมพื้นบ้านที่ทุกบ้านจะนิยมทำ คือ "ขนมจ๊อก" คำว่า "จ๊อก" เป็นคำกริยาที่หมายถึง การทำสิ่งของให้มีลักษณะเป็นคล้ายๆ กระจุก มียอดแหลม คือ การห่อขนมเทียนของทางภาค กลางนั่นเอง ขนมจ๊อกของภาคเหนือดั้งเดิมนิยมทำไส้หวานจากมะพร้าวเท่านั้น ไม่นิยมทำไส้ถั่วหรือไส้เค็มเลย เครื่องปรุง แป้งข้าวเหนียว ๕ ถ้วยตวง น้ำ ๓ ถ้วยตวง เกลือป่น ๑ ๑/๒ ช้อนโต๊ะ วิธีทำ ๑. นวดแป้งโดยใส่น้ำทีละน้อย ขณะที่กำลังนวดใส่เกลือป่นลงไปด้วย นวดจนกระทั่งแป้งนิ่ม เก็บไว้ในภาชนะที่ปิดฝา หรือใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำพอหมาดคลุมไว้ (จะใช้หัวกะทิสำหรับนวดก็ได้) ๒. ใส่มะพร้าวกับน้ำตาลปีบลงในกะทะหรือหม้อ ตั้งไฟกลาง คนไปจนกระทั่งเหนียวปั้นได้ ยกลง ๓. ปั้นไส้เป็นก้อนกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑/๒ นิ้ว ๔. นำแป้งมาปั้นให้กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑ นิ้ว แผ่ออก นำไส้ขนมที่ปั้นไว้มาใส่ตรงกลาง แล้วห่อแป้งหุ้ม ไส้ขนมให้มิดห่อด้วยใบตองที่เตรียมไว้ ๕. เรียงขนมที่ห่อเรียบร้อยแล้ว ลงในลังถึง นึ่งไฟกลางประมาณ ๓๕ นาที พอสุกยกลง ข้าวแต๋น เป็นขนมที่นิยมทำกันในเทศกาลปีใหม่เมือง หรือสงกรานต์ งานปอยลูกแก้ว และงานปอยหลวง ปัจจุบัน นิยมผสมน้ำแตงโมลงในข้าวเหนียวที่นึ่งแล้ว ก่อนนำมากดลงพิมพ์ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและความหวานอร่อย (บัวจันทร์ นนทวาสี, สัมภาษณ์, 10 กรกฎาคม 2550) วิธีการทำ คั้นเนื้อแตงโม และกรองเอาแต่น้ำ ผสมงาดำใส่ลงในน้ำแตงโม คนให้เข้ากัน 2.
ขนมภาคกลาง | ชอบ น่ะ
ประวัติ อาหารหวานของทางภาคเหนือ และถือเป็นของหวานที่เป็นขนมยอดนิยม ทำกันทุกบ้านในเวลาเทศกาลโดยเฉพาะ สงกรานต์ หรือเทศกาลเข้าพรรษา เดือนยี่เป็ง เวลาไปทำบุญที่วัด เราจะพบเห็นขนมพื้นบ้านที่ทุกบ้านจะนิยมทำ คือ "ขนมจ๊อก" คำว่า "จ๊อก" เป็นคำกริยาที่หมายถึง การทำสิ่งของให้มีลักษณะเป็นคล้ายๆ กระจุก มียอดแหลม คือ การห่อขนมเทียนของทางภาค กลางนั่นเอง ขนมจ๊อกของภาคเหนือดั้งเดิมนิยมทำไส้หวานจากมะพร้าวเท่านั้น ไม่นิยมทำไส้ถั่วหรือไส้เค็มเลย ส่วนผสม แป้งข้าวเหนียว 5 ถ้วยตวง น้ำ 3 ถ้วยตวง เกลือป่น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ วิธีทำ 1. นวดแป้งโดยใส่น้ำทีละน้อย ขณะที่กำลังนวดใส่เกลือป่นลงไปด้วย นวดจนกระทั่งแป้งนิ่ม เก็บไว้ในภาชนะที่ปิดฝา หรือใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำพอหมาดคลุมไว้ (จะใช้หัวกะทิสำหรับนวดก็ได้) 2. ใส่มะพร้าวกับน้ำตาลปีบลงในกะทะหรือหม้อ ตั้งไฟกลาง คนไปจนกระทั่งเหนียวปั้นได้ ยกลง 3. ปั้นไส้เป็นก้อนกลม เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1/2 นิ้ว 4. นำแป้งมาปั้นให้กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว แผ่ออก นำไส้ขนมที่ปั้นไว้มาใส่ตรงกลาง แล้วห่อแป้งหุ้ม ไส้ขนมให้มิดห่อด้วยใบตองที่เตรียมไว้ 5. เรียงขนมที่ห่อเรียบร้อยแล้ว ลงในลังถึง นึ่งไฟกลางประมาณ 35 นาที พอสุกยกลง
ขนมไทยภาคกลาง ส่วนใหญ่ทำมาจากข้าวเจ้า เช่น ข้าวตัง นางเล็ด ข้าวเหนียวมูน และมีขนมที่หลุดลอดมาจากรั้ววัง จนแพร่หลายสู่สามัญชนทั่วไป เช่น ลูกชุบ หม้อข้าวหม้อแกง ฝอยทอง ทองหยิบ ขนมตาล ขนมกล้วย ขนมเผือก เป็นต้น ขั้นตอนและวิธีการทำข้าวตัง ส่วนผสมข้าวตังหน้าตั้ง ข้าวตัง 1/2 กก. น้ำมันสำหรับทอด ส่วนผสมน้ำจิ้ม เนื้อหมูสับละเอียด 1 ถ้วย กุ้งสับละเอียด 1 ถ้วย กระเทียมซอย 1/2 ถ้วย หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย กะทิ 2 ถ้วย น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะขาม 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันน้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ วิธีทำข้าวตังหน้าตั้ง 1. นำข้าวตัง ทอดกับน้ำมันจนสุกกรอบ พักให้สะเด็ดน้ำมัน 2. นำกะทิตั้งไฟพอเดือดแล้วเคี่ยวให้แตกมันเล็กน้อย แล้วใส่เนื้อสัตว์ ผัดพอสุก 3. ใส่ส่วนผสมอื่นๆ ลงตามปรุงรส รสชาติจะออกเปรี้ยว หวาน เค็ม 4. จากนั้นจึงแต่งหน้าด้วยน้ำมันพริกเผาเล็กน้อย ทอดข้าวตังให้สุกเหลืองกรอบ เสิร์ฟคู่กัน ขั้นตอนและวิธีการทำทองหยิบ ความหมายทองหยิบ เป็น ขนมมงคล ชนิดหนึ่ง มี ลักษณะ งดงามคล้าย ดอกไม้สีทอง ต้องใช้ความสามารถและ ความพิถีพิถัน เป็นอย่างมาก ใน การ ประดิษฐ์ประดอย จับกลีบให้มีความงดงามเหมือนกลีบดอกไม้ ชื่อ ขนมทองหยิบ เป็นชื่อ สิริมงคล เชื่อว่าหากนำไปใช้ประกอบ พิธีมงคล ต่างๆ หรือให้เป็น ของขวัญ แก่ใครแล้ว จะทำให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวย หยิบจับ การงาน สิ่งใดก็จะ ร่ำรวย มีเงินมีทอง สมดังชื่อ "ทองหยิบ" ส่วนผสมของขนมทองหยิบ ไข่เป็ด ๑๐ ฟอง น้ำตาลทราย ๑ กิโลกรัม น้ำลอยดอกมะลิ ๕ ถ้วยตวง วิธีทำ ๑.
ขนมไทย 4 ภาค
- วิธี ติด ตั้ง เครื่อง ป ริ้น brother mfc t810w
- เศษ ดิน อุด ตัน ท่อ
- Sigma 105mm f1.4 DG HSM A for Canon (ประกันศูนย์ไทย)
- เข้าสู่ระบบ Facebook | Facebook
- ฤกษ์ ปลูก บ้าน ปี 2563
- การ ติด โซ ล่า เซลล์
- ขนมภาคกลาง | ชอบ น่ะ
- ขนมไทย ภาคกลาง - nichapad may
- เสื้อ แจ็ ค เก็ ต sport
- Bianchi infinito cv 2015 ราคา 12
- ขนมไทยในภาคเหนือ | wangkham
- หมด เวลา เลือกตั้ง กี่ โมง
ตีไข่ให้ขึ้นฟู แล้วเติมน้ำตาลทีละน้อยจนหมด ตีต่อไปจนน้ำตาลตั้งยอดอ่อน 2. ร่อนแป้งผงฟูเข้าด้วยกัน แล้วแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ใส่แป้งส่วนที่ 1 ลงในไข่ที่ตีแล้ว เคล้าเบาๆให้เข้ากัน ใส่น้ำมะนาวลงไป ใส่แป้งส่วนที่ 2 เคล้าเบาๆอีกครั้ง 3. ทาน้ำมันพืชที่พิมพ์ขนมอบให้ร้อน แล้วใส่แป้งที่ผสมลงในพิมพ์ปิดฝาอบให้แป้งสุกแห้งจนขนมเป็นสีทอง แกะขึ้นใส่ถาด พักไว้ให้เย็น ขนมก้านบัว ส่วนผสมตัวแป้ง แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/2 กิโลกรัม น้ำมันพืช 2 ช้อนโตะ น้ำ 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 1/2 ช้อนชา ไข่ไก่ 1 ฟอง แอมโมเนีย 2 ช้อนชา โซดา 2 ชอนชา ส่วนผสมน้ำตาลสำหรับเคลือบ น้ำตาลทราย 1 1/4 ถ้วย น้ำ 1/2 ถ้วย เกลือ 1 ช้อนชา แบะแซ 20 กรัม ขิงแก่สับละเอียด 75 กรัม ( 1/3 ถ้วย) วิธีทำ 1. ร่อนแป้งลงในอ่างผสม ทำเป็นบ่อตรงกลาง 2. ผสมน้ำ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย เกลือ ไข่ไก่ แอมโมเนีย โซดา คนให้เข้ากัน 3. เทส่วนผสมข้อ 2 ลงในอ่างแป้ง นวดให้เข้ากัน พักแป้งไว้ 1 ชั่วโมง 4. แบ่งแป้งมาคลึงให้มีความหนาประมาณ 1/4 เชนติเมตร ตัดแป้งเป็นชิ้นยาว3-4 เนติเมตร ทำเช่นนี้จนหมดแป้ง 5.
ภาคกลาง | .: ครัวไทยสู่ครัวโลก :.
จังหวัดพิจิตร ขนมชั้น ขนมชั้น ถือว่าเป็นขนมหวานที่ขึ้นชื่อของจังหวัดพิจิตร ในเรื่องของรสชาติและรูปแบบขนมชั้นมักนิยมในช่วงวันแต่งงาน วันพระ ส่วนผสมทำจากแป้ง น้ำตาลทราย และกะทิ สีสันของขนมอาจทำมาจากใบเตย ปัจจุบันทำมาดัดแปลงพับเป็นรูปดอกกุหลาบที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของไทย 10. จังหวัดพิษณุโลก ขนมกล้วยตากบางกระทุ่ม ขนมกล้วยตาก เนื่องจากมีกล้วยน้ำว้าเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านจึงคิดวิธีทดลองถนอมอาหาร โดยการนำกล้วยสุกไปตากแดดเก็บไว้รับประทานและแจกชุมชนใกล้เคียงจนเป็นที่ติดปากและถูกใจ ในรสชาติต่อมาชาวบ้านได้ปรับปรุงและพัฒนาจนปัจจุบันเป็นของฝากที่ขึ้นชื่อของจังหวัดพิษณุโลก 11. จังหวัดเพชรบูรณ์ มะขามแปรรูป มะขามแปรรูป ชาวบ้านใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการแปรรูปมะขามเพื่อให้สามารถเก็บรักษาไว้รับประทานได้นาน ซึ่งตอนแรกได้แปรรูปเป็นมะขามกวนปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์เรื่อยมาและเป็นของฝากที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดเพชรบูรณ์ 12. จังหวัดลพบุรี วุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อม วุ้นมะพร้าวในน้ำเชื่อม ริเริ่มทำโดยข้าราชการบำนาญของจังหวัดลพบุรี วิธีการทำคือ ทำน้ำมะพร้าวให้เป็นชั้นวุ้นและนำมาแปรรูปในขวดแก้วออกจำหน่ายตามท้องตลาด ปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์จนเป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย 13.
ขนมหวานทั้ง 4 ภาค | ขนมหวานของไทย
นำถั่วที่มีเนื้อละเอียดดีแล้วมาใส่ลงกระทะทองพร้อมทั้งน้ำตาลทรายขาว 7. กวนด้วยไฟอ่อน ๆ จนเนื้อถั่วข้นเหนียว ล่อนไม่ติดกระทะ 8. ยกถั่วลงปล่อยไว้ให้เย็นแล้วจึงนวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน 9. แบ่งถั่วเป็นก้อนขนาดเท่ากับลูกชุบที่ต้องการปั้น 10. นำไปอบควันเทียนมีกลิ่นหอมจรุงทุกเม็ด ก่อนจะนำมาปั้นแต่งจนกลายเป็นผลไม้ชนิดต่าง ๆ 11. นำลูกชุบที่ปั้นเสร็จแล้วมาชุบวุ้น 2-3 ครั้ง โดยการชุบแต่ละครั้งต้องรอให้วุ้นแห้งก่อนแล้วจึงชุบทับ วิธีการอบควันเทียน 1. นำถั่วที่กวนได้ที่พักไว้ให้เย็น ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิด ไม่ควรใช้ภาชนะพลาสติกจะทำให้กลิ่นเหม็นของ พลาสติกปนในถั่วกวน 2. วางถ้วยกระเบื้องเล็กไว้ตรงกลางถั่วกวน 3. จุดเทียนอบทั้ง 2 ข้าง ให้เปลวไฟติดดีแล้วดับให้เกิดควัน 4. วางเทียนบนถ้วยกระเบื้อง ปิดฝาให้สนิทพักไว้ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง 5. กลับถั่วด้านบนลงข้างล่าง แล้วจุดเทียนอบใหม่อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้อาจจะพักไว้ค้างคืนเลยก็ได้
1. จังหวัดกำแพงเพชร กระยาสารท กระยาสารท เป็นขนมที่ทำกันในช่วงสารทไทย โดยทำจาก ข้าวตอก ข้าวเม่า ถั่วลิสง งา มาคั่วให้สุก แล้วนำมากวนกับน้ำตาลจนเหนียวติดกันเป็นปึก นิยมรับประทานกับกล้วยไข่ซึ่งปลูกมากในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร จึงถือว่า เป็นขนมประจำเมืองกำแพงเพชร 2. จังหวัดชัยนาท ขนมกง ขนมกง คือขนมที่ใช้ในพิธีแต่งงานเพื่อให้ชีวิตดำเนินไปไม่ไห้สิ้นสุดส่วนผสม ของขนมกง ประกอบด้วย ถั่วเหลือง น้ำตาล มะพร้าว น้ำตาล แป้ง และขนมกง ยังมีคุณค่าทางอาหารด้านโปรตีน 3. จังหวัดนครปฐม วุ้นมะพร้าว วุ้นมะพร้าว เป็นการแปรรูปวัตถุดิบในท้องถิ่นที่มีอยู่จำนวนมาก และมีวิธีการทำคือ นำน้ำมะพร้าวน้ำหอมมาเป็นส่วนผสมในการทำวุ้นมะพร้าวน้ำหอม ซึ่งมีรสชาติ หอม หวาน มัน มีคุณค่าทางอาหาร จึงเป็นที่นิยมรับประทานและเป็นของฝาก ประจำจังหวัดนครปฐม 4. จังหวัดนครนายก เผือกเส้นทอดกรอบ เผือกเส้นทอดกรอบ เป็นการแปรรูปของผลิตผลทางการเกษตร เพื่อลดปัญหา ผลผลิตล้นตลาดและเป็นการเพิ่มมูลค่าของสินค้า 5. จังหวัดนครสวรรค์ ขนมโมจิ ขนมโมจิ เป็นสัญลักษณ์ของชาวจังหวัดนครสวรรค์ โดยได้มีการพัฒนารูปแบบ และรสชาติที่น่าอร่อยน่ารับประทาน ทั้งไส้ถั่วเขียว ไส้ถั่วดำ ไข่เค็มแดง อีกทั้ง เนื้อแป้งยังนุ่ม หอม หวาน พร้อมด้วยคุณค่าทางอาหารทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน 6.
19 มิ. ย.
Mon, 08 Nov 2021 02:31:49 +0000